ข้อกำหนดและเงื่อนไข

เรามีเป้าหมายที่จะเป็นบริษัทชั้นนำในประเทศไทยในการให้บริการโอนเงินออนไลน์ระหว่างประเทศที่มีการสนับสนุนที่เป็นกันเอง ระดับความปลอดภัยที่สูงขึ้น และความพึงพอใจของลูกค้า

วันที่บังคับใช้: 22/09/2023

ข้อตกลงและเงื่อนไขการใช้บริการ

บริษัท อินเตอร์เซนด์ มันนี่ จํากัด ทะเบียนนิติบุคคลเลขที่ 0105564131664 เป็นบริษัทจัดตั้งขึ้นตามกฎหมายไทย (“ผู้ให้บริการ”) และเป็นผู้ได้รับอนุญาตจากธนาคารแห่งประเทศไทยให้ดําเนินธุรกิจให้บริการโอนเงินในฐานะตัวแทนโอนเงินระหว่างประเทศ มีความยินดีอย่างยิ่งที่จะให้บริการ ดูแล และอํานวยความสะดวกให้แก่ลูกค้า (“ผู้รับบริการ”) เพื่อให้ผู้รับบริการได้สัมผัสประสบการณ์ธุรกรรมการโอนเงินระหว่างประเทศที่สะดวกรวดเร็วและปลอดภัยที่สุด ตามนโยบาย วิสัยทัศน์และความมุ่งมั่นตั้งใจของผู้ให้บริการ

ผู้ให้บริการ ขอต้อนรับผู้รับบริการเข้าสู่การบริการในรูปแบบธุรกรรมการให้บริการโอนเงินระหว่างประเทศด้วยตนเองผ่านเว็บไซต์“www.intersendmoney.com” และแอปพลิเคชันที่มีชื่อว่า “Intersend” (ซึ่งต่อไปนี้จะเรียกรวมว่า “Intersend Services”) ซึ่งประกอบไปด้วยการบริการการโอนเงินระหว่างประเทศไปยังประเทศปลายทางที่ผู้รับบริการต้องการ ไม่ว่าจะเป็นโอนเงินจากประเทศไทยไปยังต่างประเทศ (ขาออก) และ/หรือรับเงินโอนจากต่างประเทศมายังประเทศไทย (ขาเข้า) เพื่อให้ผู้รับบริการสามารถทําธุรกรรมโอนเงินระหว่างประเทศได้ด้วยตนเอง

ผู้ให้บริการเป็นผู้ให้บริการแก่ผู้รับบริการและผู้รับบริการตกลงใช้บริการจากผู้ให้บริการโดยจะถือว่าข้อตกลงและเงื่อนไขการใช้บริการ (“ข้อตกลงฯ”) เป็นข้อตกลงฯ ระหว่างผู้ให้บริการ กับ ผู้รับบริการแต่ละรายและจะถือว่าผู้ให้บริการ และผู้รับบริการนั้นเป็นคู่สัญญาที่ต้องรับผิดชอบในการให้และรับบริการต่อกันภายใต้ข้อตกลงฯ นี้ ทั้งนี้ให้หมายความรวมถึงเอกสารแนบท้ายข้อตกลงฯ ทั้งหมดด้วย

ข้อตกลงฯ ฉบับนี้เป็นเอกสารสําคัญที่ผู้รับบริการควรอ่านและทําความเข้าใจข้อตกลงฯ โดยละเอียดก่อนการใช้บริการหรือการทํารายการใด ๆ ต่อไป ผู้รับบริการจะต้องไม่ใช้บริการ หากผู้รับบริการไม่ยอมรับข้อกําหนดและเงื่อนไขใด ๆ ในข้อตกลงฯ ฉบับนี้ หากผู้รับบริการได้เข้าถึง รับหรือใช้บริการกับทางผู้ให้บริการแล้ว ให้ถือว่าผู้รับบริการยอมรับและตกลงที่จะปฏิบัติตามข้อตกลงฯ ฉบับนี้

ข้อตกลงและเงื่อนไขการใช้บริการและทํารายการต่าง ๆ ผ่าน Intersend Services

ข้อ 1. บททั่วไป

1.1 ผู้ให้บริการ เป็นผู้ให้บริการโอนเงินระหว่างประเทศผ่าน Intersend Services โดยผู้รับบริการจะต้องลงทะเบียนบัญชีผู้ใช้ให้เสร็จสมบูรณ์ตามวิธีการลงทะเบียนที่ระบุไว้ในข้อ 2 ของข้อตกลงฯ ฉบับนี้ จึงจะสามารถกระทําธุรกรรมการโอนเงินระหว่างประเทศไปยังประเทศปลายทางที่ผู้รับบริการต้องการ ไม่ว่าจะเป็นโอนเงินจากประเทศไทยไปยังต่างประเทศ (ขาออก) และ/หรือรับเงินโอนจากต่างประเทศมายังประเทศไทย (ขาเข้า) หรือบริการอื่นใดที่ผู้ให้บริการให้บริการภายใต้ Intersend Services ได้

1.2 ผู้รับบริการรับทราบและยินยอมผูกพันตามกฎหมายและข้อกําหนดที่ระบุไว้ในข้อตกลงฯ นี้

1.3 ผู้รับบริการรับทราบว่าการกระทําใด ๆ ของผู้รับบริการที่ผ่านบริการและ/หรือรายการต่าง ๆ ใน Intersend Service ของผู้ให้บริการที่ระบุไว้ตามข้อ 1) นี้ไม่ว่ากรณีใด ๆ โดยการใช้ User ID และ/หรือ Password ของผู้รับบริการที่ได้ลงทะเบียนไว้กับผู้ให้บริการ ให้ถือว่าการกระทํา ดังกล่าวมีผลสมบูรณ์และผูกพันผู้รับบริการ โดยไม่จําต้องลงลายมือชื่อในเอกสารใด ๆ เพื่อเป็นหลักฐานในการดําเนินการอีก และผู้รับบริการยินยอมรับผิดชอบในการกระทําดังกล่าวเสมือนผู้รับบริการเป็นผู้กระทําการด้วยตนเองทุกประการ เว้นแต่ผู้ให้บริการจะกําหนดไว้เป็นอย่างอื่น

1.4 ผู้รับบริการต้องมีอายุไม่น้อยกว่า 20 ปีบริบูรณ์หรือเป็นผู้บรรลุนิติภาวะตามกฎหมายไทย

1.5 ผู้รับบริการยอมรับว่าการทําธุรกรรมหรือกิจกรรมใด ๆ ที่ทําผ่านบัญชีผู้ใช้ของ Intersend Services จะเป็นไปเพื่อวัตถุประสงค์ในการโอนเงินระหว่างประเทศหรือวัตถุประสงค์อื่นใดที่ผู้ให้บริการสนับสนุนการบริการไว้ให้เท่านั้น ผู้รับบริการตกลงจะไม่ใช้Intersend Services นี้เพื่อวัตถุประสงค์อื่น ๆ นอกเหนือ และ/หรือดําเนินการใด ๆ ที่เป็นการกระทําที่ขัดต่อกฎหมาย และ/หรือศีลธรรมอันดีของประชาชน หากผู้รับบริการได้กระทําละเมิดหรือก่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้ให้บริการหรือบุคคลอื่นที่เกี่ยวข้อง ผู้รับบริการยินยอมรับผิดตามกฎหมายทุกประการ

1.6 ผู้รับบริการจะไม่กระทําการใดอันเป็นการทําลาย ทําให้เสีย ขัดขวาง หรือวิธีการอื่นใด อันเป็นการทุจริต ทําให้Intersend Services ไม่สามารถใช้งานได้ ทั้งนี้ให้หมายความถึงการส่งหรือเผยแพร่โปรแกรมไวรัส หรือโปรแกรมอื่นใดที่ออกแบบมาเพื่อขัดขวาง ทําลาย หรือทําให้เสียหายซึ่งโปรแกรมคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์โทรคมนาคม และ/หรืออุปกรณ์อื่น ๆ

1.7 ผู้รับบริการเข้าใจและรับทราบว่าข้อมูลส่วนบุคคลต่าง ๆ และข้อมูลทางธุรกรรมที่เกิดขึ้นบน Intersend Services หรือที่ได้ทํารายการผ่านบัญชีผู้ใช้ของ Intersend Services นี้ผู้ให้บริการจะจัดให้มีแหล่งเก็บสํารองข้อมูลไม่ว่าจะเป็นห้องเอกสารของสํานักงาน เซิร์ฟเวอร์ (กรณีเอกสารอิเล็กทรอนิกส์) หรืออื่น ๆ ตามความเหมาะสมและผู้ให้บริการจะใช้ความระมัดระวังในการกําหนดมาตรการมิให้บุคคลภายนอกเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลหรือข้อมูลทางธุรกรรมดังกล่าวได้อย่างไรก็ตามผู้ให้บริการจะไม่รับผิดชอบต่อความเสียหายจากการที่บุคคลภายนอกได้เห็นและ/หรือใช้ข้อมูลดังกล่าวของผู้รับบริการ

1.8 ผู้รับบริการรับรองว่าข้อมูลรายละเอียดต่าง ๆ ที่ผู้รับบริการได้แสดงหรือให้ไว้ต่อผู้ให้บริการทั้งหมดเป็นข้อมูลของผู้รับบริการเองและถูกต้องตรงกับความเป็นจริงทุกประการ

1.9 ผู้รับบริการยินยอมให้ผู้ให้บริการนําข้อมูลเกี่ยวกับการใช้บริการของผู้รับบริการนี้ ไปใช้ประโยชน์เพื่อปรับปรุงการให้บริการให้เหมาะสมและประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น หรือเพื่อส่งหรือเผยแพร่ข่าวสาร สิทธิประโยชน์ต่าง ๆ เกี่ยวกับ สินค้า บริการ รายการส่งเสริมการขาย และข้อเสนอต่างๆ ให้แก่ผู้รับบริการ

1.10 ผู้รับบริการรับทราบและยอมรับว่า บริษัท อินเตอร์เซนด์ มันนี่ จํากัด คณะกรรมการบริษัทพนักงานของบริษัท และบุคคลในเครือ ไม่ต้องรับผิดชอบต่อความเสียหายใด ๆ จากการใช้บริการIntersend Services ของผู้รับบริการ ซึ่งไม่จํากัดเฉพาะความเสียหาย สูญเสียและค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม โดยเฉพาะเจาะจง โดยบังเอิญ หรือเป็นผลกระทบสืบเนื่องก็ตาม หรือความเสียหายใด ๆ จากการไม่สามารถเข้าใช้บริการ Intersend Services ได้ หรือความเสียหายใด ๆ จากความล้มเหลวในการใช้งาน ความผิดพลาด การละเว้น การหยุดชะงักข้อบกพร่อง ความไม่สมบูรณ์ ไวรัสคอมพิวเตอร์ฯลฯ

1.11 ผู้ให้บริการขอสงวนสิทธิยกเลิกบริการนี้ หรือแก้ไข เปลี่ยนแปลง เพิ่มเติม ตัดทอน รายละเอียดและเงื่อนไขต่าง ๆ ในข้อตกลงนี้ฯ รวมถึงการเปิดให้บริการด้านอื่น ๆ หรือการเรียกเก็บค่าบริการ(ถ้ามี) ได้โดยไม่จําเป็นต้องแจ้งให้ผู้รับบริการทราบล่วงหน้าและถือว่าผู้รับบริการยอมรับการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวแล้ว

ข้อ 2. วิธีการลงทะเบียนบัญชีผู้ใช้การเข้าถึงบริการ และ การบริหารบัญชี

2.1 ก่อนการใช้บริการ ผู้รับบริการจะต้องระบุข้อมูลต่าง ๆ ที่จําเป็นและลงทะเบียนตามเงื่อนไขช่องทางและวิธีการที่ผู้ให้บริการกําหนดเพื่อให้ได้มาซึ่งบัญชีของตน และผู้รับบริการต้องให้ความยินยอมในการยอมรับข้อกําหนดและเงื่อนไขทั้งหมดที่มีผลใช้บังคับในการใช้บริการนี้

2.2 ผู้รับบริการจะต้องยืนยันและตรวจสอบตัวตนของผู้รับบริการตามระเบียบขั้นตอนที่ผู้ให้บริการกําหนด และผู้รับบริการจะต้องให้ข้อมูลแก่ผู้ให้บริการและผู้ให้บริการอาจจะขอให้พิสูจน์และตรวจสอบตัวตนของผู้รับบริการ ตามข้อตกลงฯ และนโยบายความเป็นส่วนตัว หากจําเป็นหรือบทบัญญัติแห่งกฎหมายใดได้กำหนดไว้
กรณีการการพิสูจน์หรือตรวจสอบตัวตน

ผู้รับบริการจะต้องระบุรายละเอียดข้อมูลส่วนบุคคลของผู้รับบริการ โดยผู้รับบริการอนุญาตให้ผู้ให้บริการสอบถามข้อมูลใด ๆ ได้โดยตรงหรือโดยผ่านบุคคลภายนอกตามที่ผู้ให้บริการเห็นว่าจําเป็นในการพิสูจน์ตัวตนของผู้รับบริการ ซึ่งอาจรวมถึงขอให้ผู้รับบริการ
(ก) ให้ข้อมูลหรือเอกสารเพิ่มเติม
(ข) ให้หมายเลขประจําตัวผู้เสียภาษี หรือหมายเลขบัตรประจําตัวประชาชน
(ค) ทําตามขั้นตอนต่าง ๆ เพื่อยืนยันความเป็นเจ้าของข้อมูลการติดต่อ หรือตราสารทางการเงิน หรือรายงานข้อมูลเครดิต หรือ
(ง) ตรวจสอบข้อมูลของผู้รับบริการจากฐานข้อมูลของบุคคลภายนอก หรือผ่านแหล่งข้อมูลอื่นใด

2.3 ผู้รับบริการรับประกันและรับรองว่าข้อมูลทั้งหมดที่ผู้รับบริการให้หรือได้ให้ไว้กับผู้ให้บริการ นั้นถูกต้องและเป็นปัจจุบัน หากข้อมูลใด ๆ ที่ผู้รับบริการให้กับผู้ให้บริการ ไม่เป็นปัจจุบันผู้รับบริการจะต้องทําให้ข้อมูลดังกล่าวเป็นปัจจุบันโดยไม่ชักช้า และผู้ให้บริการมีสิทธิเรียกร้องเอกสารหรือข้อมูลใด ๆ ที่จําเป็นสําหรับการพิสูจน์หรือตรวจสอบตัวตนได้ทุกเวลาหรือทุกขั้นตอนที่จําเป็นหากผู้รับบริการไม่สามารถที่จะให้ข้อมูลหรือทําข้อมูลให้เป็นปัจจุบันภายในเวลาที่ผู้ให้บริการกําหนด หรือข้อมูลที่ให้กับผู้ให้บริการ ไม่ถูกต้องหรือไม่เป็นความจริง ผู้ให้บริการขอสงวนสิทธิ์ปฏิเสธ หรือระงับการให้บริการทั้งหมด หรือส่วนใดส่วนหนึ่งแก่ผู้รับบริการ และ/หรือ ยกเลิกข้อตกลงฯ โดยไม่จําเป็นต้องแจ้งให้ผู้รับบริการทราบล่วงหน้า

2.4 ผู้รับบริการรับประกันและรับรองว่า ผู้รับบริการเป็นเจ้าของผู้ได้รับประโยชน์ของบัญชี Intersend Services ที่ได้ลงทะเบียนไว้ภายใต้ชื่อของผู้รับบริการ ห้ามลงทะเบียนผู้รับบริการโดยใช้ชื่อของบุคคลอื่นเป็นอันขาด

2.5 ผู้รับบริการต้องปฏิบัติตามวิธีการและขั้นตอนที่ผู้ให้บริการได้ระบุไว้เกี่ยวกับการสร้างรหัสประจําตัว และรหัสผ่าน (Password) ของผู้รับบริการเพื่อการเข้าถึง และ/หรือใช้บริการผู้รับบริการสามารถเข้าถึงและใช้บริการโดยการล็อกอินเข้าสู่บัญชี Intersend Services ของผู้รับบริการโดยใช้รหัสผ่าน (Password) ของผู้รับบริการ

2.6 ผู้รับบริการรับทราบว่ารหัสผ่านของผู้รับบริการเป็นความลับ และจะใช้โดยผู้รับบริการเท่านั้นเพื่อการลงทะเบียนและการล็อกอินเข้าสู่บัญชี Intersend Services ของผู้รับบริการ เพื่อเข้าถึงและใช้บริการ ผู้รับบริการจะต้องไม่เปิดเผย โอน หรือส่งมอบรหัสผ่านของผู้รับบริการแก่บุคคลภายนอก เพื่อให้บุคคลภายนอกใช้ ไม่ว่าในกรณีใด ๆ รวมถึงจะรักษารหัสผ่านของผู้รับบริการอย่างระมัดระวังตามสมควรในการเก็บรหัสผ่านของผู้รับบริการไว้เป็นความลับ และป้องกันมิให้บุคคลอื่นเข้าใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต การกระทําหรืองดเว้นการกระทํา โดยตั้งใจหรือไม่ตั้งใจ อันเป็นเหตุให้เกิดการฝ่าฝืนการรักษาความลับ จะมีผลให้ผู้รับบริการต้องรับผิดต่อผู้ให้บริการ สําหรับความสูญเสียและความเสียหายใด ๆ ทั้งปวงที่เกิดขึ้น หรือที่เป็นผลมาจากการฝ่าฝืนนั้น การกระทําทั้งหมดที่เกิดขึ้นภายใต้บัญชี Intersend Services ของผู้รับบริการ ให้ถือเป็นการกระทําของผู้รับบริการซึ่งเป็นเจ้าของบัญชี Intersend Services ดังกล่าว

2.7 การให้เข้าถึง หรือความพร้อมของบริการต่อผู้รับบริการถือว่าเป็นดุลยพินิจแต่เพียงฝ่ายเดียวของผู้ให้บริการ โดยผู้ให้บริการสงวนสิทธิ์ในการอนุมัติหรือปฏิเสธคําขอใช้บริการของผู้รับบริการใด ๆในการใช้บัญชี Intersend Services เพื่อเข้าถึงบริการ ผู้รับบริการรับทราบและตกลงว่าไม่ว่าในเวลาใด ๆ โดยไม่ต้องบอกกล่าวล่วงหน้า ผู้ให้บริการอาจจะระงับ หรือยกเลิกบัญชีของผู้รับบริการการให้บริการ หรือส่วนใดส่วนหนึ่งในการให้บริการต่อผู้รับบริการได้ หรืออาจจะดําเนินการใด ๆ ตามที่จําเป็นและเหมาะสมตามที่ผู้ให้บริการเห็นควร

2.8 กรณีผู้ใช้ต้องการปิดบัญชี

  1. ผู้ให้บริการสามารถปิดบัญชีผู้ใช้งานเมื่อใดก็ได้โดยปฏิบัติตามนโยบายหรือระเบียบที่ผู้ให้บริการกําหนดไว้ ทั้งนี้ผู้ให้บริการขอสงวนสิทธิ์ในการเรียกค่าเสียหายกรณีที่ผู้ให้บริการตรวจพบว่าผู้รับบริการก่อให้เกิดความเสียหายอันเนื่องมาจากการใช้บริการผ่านบัญชีผู้ใช้งาน Intersend Services ของตนไม่ว่าบัญชีดังกล่าวจะถูกปิดไปแล้วหรือไม่ก็ตาม
  2. ผู้รับบริการห้ามปิดบัญชีผู้ใช้งานเพื่อหลบเลี่ยงการตรวจสอบของผู้ให้บริการ หากผู้รับบริการดําเนินการปิดบัญชีผู้ใช้งานในขณะที่บัญชีผู้ใช้งานอยู่ในระหว่างการตรวจสอบจะถือว่าผู้รับบริการมีเจตนาทุจริต หากพบว่ามีความเสียหายเกิดขึ้นกับผู้ให้บริการ บริษัทในเครือ หรือบุคคลภายนอก อันเนื่องมาจากการใช้บริการบน Intersend Services ผู้รับบริการต้องรับผิดในหนี้ทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับบัญชีผู้ใช้งานของผู้รับบริการเต็มจํานวน แม้ว่าบัญชีผู้ใช้งานของผู้รับบริการจะถูกปิดไปแล้วก็ตาม
  3. ผู้ให้บริการจะเก็บรักษาเอกสารอันเกี่ยวกับผู้รับบริการตามเงื่อนไขและระยะเวลาไม่ต่ํากว่าที่กฎหมายที่เกี่ยวข้องกําหนด


2.9 ก่อนการใช้บริการ ผู้รับบริการจะต้องระบุข้อมูลต่าง ๆ ที่จําเป็นและลงทะเบียนตามเงื่อนไขช่องทางและวิธีการที่ผู้ให้บริการกําหนดเพื่อให้ได้มาซึ่งบัญชีของตน และผู้รับบริการต้องให้ความยินยอมในการยอมรับข้อกําหนดและเงื่อนไขทั้งหมดที่มีผลใช้บังคับในการใช้บริการนี้

  1. หากบัญชีผู้ใช้งาน Intersend Services ของผู้รับบริการไม่มีการเคลื่อนไหวใด ๆ ภายในระยะเวลา 6 เดือนนับจากวันที่ใช้บริการครั้งล่าสุด บัญชี Intersend Services ของผู้รับบริการนั้นจะไม่สามารถใช้งานได้ชั่วคราว (Inactive) หากต้องการเปิดการใช้งานอีกครั้ง (Reactivate) ผู้รับบริการจะต้องเข้าสู่กระบวนการยืนยันและตรวจสอบตัวตนของผู้รับบริการตามระเบียบขั้นตอนและข้อตกลงฯ รวมทั้งดําเนินการใด ๆตามที่ผู้ให้บริการเห็นสมควร ดุลยพินิจในการเปิดใช้งานบัญชี Intersend Services เป็นดุลยพินิจของผู้ให้บริการแต่เพียงฝ่ายเดียวและให้ถือเป็นที่สุด

ข้อ 3. เกี่ยวกับการใช้บริการ

3.1 การบริการของ Intersend Services จะให้บริการการโอนเงินระหว่างประเทศไปยังประเทศปลายทางที่ผู้รับบริการต้องการ ไม่ว่าจะเป็นโอนเงินจากประเทศไทยไปยังต่างประเทศ (ขาออก)และ/หรือรับเงินโอนจากต่างประเทศมายังประเทศไทย (ขาเข้า) เพื่อให้ผู้รับบริการสามารถทําธุรกรรมโอนเงินระหว่างประเทศได้สะดวก รวดเร็ว ปลอดภัย และมีเงื่อนไขค่าธรรมเนียมสําหรับธุรกรรมต่าง ๆ ดังต่อไปนี้

  1. กรณีการโอนเงินระหว่างประเทศผ่าน Intersend Services ผู้ให้บริการไม่คิดค่าธรรมเนียมใด ๆ ทั้งสิ้น

  2. กรณีการยกเลิกคําสั่งการโอนเงินระหว่างประเทศไม่ว่าด้วยเหตุใดก็ตามหลังจากผู้รับบริการได้ตกลงทําธุรกรรมโดยกดปุ่มคําสั่งยืนยันเพื่อทําธุรกรรมโอนเงินระหว่างประเทศแล้ว ผู้ให้บริการขอคิดค่าธรรมเนียมการคืนเงินสําหรับการยกเลิกธุรกรรมการโอนเงินระหว่างประเทศเป็นจํานวน 150 บาท ต่อ 1 ธุรกรรมที่ผู้รับบริการทําการยกเลิก เว้นแต่
    (ก) การยกเลิกคําสั่งการโอนเงินระหว่างประเทศมิได้เกิดจากความผิดหรือความล่าช้าของการส่งข้อมูลหรือเอกสารเพิ่มเติมที่ผู้ให้บริการร้องขอจากผู้รับบริการ

     

  3. ผู้ให้บริการขอสงวนสิทธิ์ในการปรับเปลี่ยนค่าธรรมเนียมการให้บริการต่าง ๆ ทั้งนี้ผู้ให้บริการจะประกาศบน Intesend Services เพื่อให้ผู้รับบริการทราบล่วงหน้าไม่น้อยกว่า 3 วันก่อนการปรับเปลี่ยน

3.2 ผู้รับบริการยินยอมรับข้อกําหนดและเงื่อนไข ๆ ต่างที่เกี่ยวข้องกับการทําธุรกรรมการโอนเงินที่ตนทําคําสั่งการโอนเงินระหว่างประเทศและให้ข้อมูลที่จําเป็นสําหรับการทําคําสั่งดังกล่าว ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลส่วนตัว ชื่อ-สกุล ที่อยู่ เบอร์ติดต่อ จํานวนเงินที่ประสงค์จะโอน เลขที่บัญชีและ/หรือข้อมูลหรือเอกสารอื่นใดของผู้รับบริการหรือผู้รับเงินปลายทางที่จําเป็นสําหรับการทําธุรกรรมดังกล่าว ผู้ให้บริการจะดําเนินการตรวจสอบข้อมูลและ/หรือเอกสารต่าง ๆ ตามระเบียบวิธีการ ข้อตกลงฯ หรือบทบัญญัติต่าง ๆ ที่ผู้ให้บริการและกฎหมายกําหนดและจะดําเนินการโอนเงินไปยังผู้รับเงินปลายทางภายใน 7 วันทําการนับแต่วันที่ได้รับคําสั่งยืนยันการโอนเงินระหว่างประเทศจากผู้รับบริการ กรณีคําสั่งการโอนเงินระหว่างประเทศหรือธุรกรรมดังกล่าวเข้าข่ายต้องตรวจสอบรายละเอียดเพิ่มเติม เพื่อให้ธุรกรรมดังกล่าวสําเร็จลุล่วง ผู้ให้บริการมีสิทธิร้องขอเอกสารและ/หรือข้อมูลดังกล่าวจากผู้รับบริการได้ตามความเหมาะสม ทั้งนี้ผู้ให้บริการขอสงวนสิทธิ์ไม่รับผิดชอบในความล่าช้าของธุรกรรมใด ๆ อันเกิดจากการที่ผู้ให้บริการมีความจําเป็นต้องดําเนินการตรวจสอบ พิสูจน์ร้องขอ ข้อมูลหรือเอกสารดังที่กล่าวข้างต้นเพื่อให้การดําเนินธุรกรรมดังกล่าวสําเร็จลุล่วง หรือ เหตุสุดวิสัยที่ไม่อาจคาดการณ์ได้หรือ เหตุที่มิใช่ความผิดของฝ่ายผู้ให้บริการ

3.3 เมื่อผู้รับบริการได้รับผลคําสั่งการตรวจสอบข้อมูลแล้ว ปรากฏว่าต้องส่งเอกสารและ/หรือข้อมูลเพิ่มเติม หากผู้รับบริการไม่ประสงค์หรือไม่สามารถให้เอกสารและ/หรือข้อมูลดังกล่าวเพื่อดําเนินการตามข้อ 3.2 ได้ภายในเวลาที่ผู้ให้บริการกําหนด ให้ถือว่าผู้รับบริการละทิ้งการดําเนินธุรกรรมนั้น และผู้ให้บริการมีสิทธิปฏิเสธการดําเนินธุรกรรมดังกล่าวได้

3.4 คําสั่งการโอนเงินระหว่างผู้ให้บริการและผู้รับบริการ เป็นข้อตกลงแยกต่างหากซึ่งจะจํากัดเฉพาะการโอนเงินที่ระบุในส่วนที่เกี่ยวข้องกับคําสั่งดังกล่าวเท่านั้น ผู้ให้บริการจะไม่มีภาระผูกพันใดรวมถึงขอบข่ายงานหรือข้อตกลงใด ๆ เกิดขึ้นนอกเหนือไปจากคําสั่งการโอนเงินดังกล่าว

3.5 กฎหมายที่ใช้บังคับห้ามมิให้ผู้โอนเงินทําธุรกรรมร่วมกับบุคคลบางคนหรือบางประเทศ ผู้ให้บริการจําเป็นต้องตรวจสอบธุรกรรมทั้งหมดตามรายชื่อที่รัฐบาลของประเทศและเขตปกครองได้แก่ สํานักงานควบคุมทรัพย์สินในต่างประเทศ (OFAC) ของกรมธนารักษ์ ประเทศสหรัฐฯสหภาพยุโรป พระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 กฎหมายหรือกฎเกณฑ์เกี่ยวกับการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินและการต่อต้านการสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้าย หรือ กฎหมายไทยอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง หากมีชื่อตรงตามที่ระบุ ผู้ให้บริการจะตรวจสอบการทําธุรกรรมเพื่อพิจารณาว่าชื่อที่ตรงกันคือบุคคลในรายการที่เกี่ยวข้องหรือไม่ เพื่อวัตถุประสงค์นี้ผู้ให้บริการมีสิทธิที่จะร้องขอรายละเอียดเพิ่มเติมและหลักฐานการระบุตัวตนจากผู้รับบริการหรือผู้รับเงินที่ระบุ ซึ่งอาจทําให้การทําธุรกรรมล่าช้า ซึ่งเป็นข้อกําหนดทางกฎหมายสําหรับการทําธุรกรรมทั้งหมดที่ดําเนินการโดยผู้ให้บริการ (รวมถึงการโอนเงินที่เกิดและเป็นผลนอกประเทศ) รวมทั้งข้อบังคับที่มุ่งป้องกันการฉ้อโกง การฟอกเงิน หรือการจัดหาเงินทุนการก่อการร้าย

3.6 ผู้ให้บริการเป็นผู้กําหนดอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราระหว่างประเทศ และผู้รับบริการยอมรับอัตราแลกเปลี่ยนดังกล่าว ณ เวลายืนยันคําสั่งการโอนเงินระหว่างประเทศภายใต้บัญชีของผู้รับบริการอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราระหว่างประเทศจะปรากฏอยู่บน Intersend Services หัวข้อ “ข้อมูลอัตราแลกเปลี่ยน” ซึ่งจะถูกปรับปรุงให้เป็นฉบับล่าสุดพร้อมลงวันที่และเวลาการประกาศไว้ และจะแสดงให้ผู้รับบริการทราบก่อนยืนยันการทําธุรกรรมการโอนเงินทุกครั้ง ทั้งนี้กรณีเกิดข้อพิพาทอันเกี่ยวกับอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราระหว่างประเทศไม่ตรงตามข้อมูลที่แสดงให้ผู้รับบริการทราบก่อนยืนยันการทําธุรกรรมการโอนเงินไม่ว่าด้วยเหตุใดก็ตาม อาทิ ปัญหาระบบอินเทอร์เน็ตของผู้รับบริการ ฯลฯ ผู้ให้บริการและผู้รับบริการตกลงให้อัตราแลกเปลี่ยนเงินตราดังกล่าวเป็นไปตามอัตราแลกเปลี่ยนที่ Intersend Services ประกาศล่าสุด ณ เวลาที่กดยืนยันคําสั่งการโอนเงินของผู้รับบริการ และให้ถือเป็นที่สุด

3.7 จํานวนเงินที่โอนตามคําสั่งของผู้รับบริการจะถูกแปลงและชําระเป็นสกุลเงินของประเทศปลายทางที่ให้บริการเท่านั้น

3.8 การออกหลักฐานการชําระเงิน

  1. เมื่อผู้รับบริการได้ใช้บริการ Intersend Services และชำระค่าธรรมเนียมใด ๆ ตามที่กำหนดในข้อ 3.1 หรือค่าธรรมเนียมอื่นใดที่เกี่ยวกับการใช้บริการตามที่ผู้ให้บริการกำหนดแล้ว ผู้ให้บริการจะออกเอกสารหลักฐานการชำระเงินหรือหลักฐานอื่นใดที่มีข้อความในทำนองเดียวกัน และจะจัดส่งหลักฐานการชำระค่าธรรมเนียมดังกล่าวผ่านทาง Intersend Services (ทางแอปพลิเคชัน อีเมล หรือช่องทางอื่นใดตามนโยบายที่ผู้ให้บริการกำหนด) เพื่อเป็นการยืนยันว่ากระบวนการการชำระค่าธรรมเนียมได้กระทำจนเสร็จสิ้นครบถ้วนแล้ว

3.9 หากผู้รับบริการพบปัญหาและต้องการร้องเรียนปัญหาเกี่ยวกับการใช้บริการ

  1. ผู้รับบริการสามารถติดต่อร้องเรียนปัญหาหรือขอความช่วยเหลือกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ (Operating Officer) ผ่านช่องทางอีเมลหรือหน้าเว็บไซต์หรือช่องทางอื่นใดตามนโยบายที่ผู้ให้บริการกำหนดได้ตลอดเวลา

  2. เจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการของผู้ให้บริการจะดำเนินการรับเรื่องปัญหาข้อร้องเรียน ตรวจสอบ ประเมินสภาพปัญหาดังกล่าวเบื้องต้น และยืนยันการรับทราบปัญหาข้อร้องเรียนดังกล่าวตามลำดับ

  3. การแก้ไขปัญหาข้อร้องเรียนให้แก่ผู้รับบริการ

    (ก) กรณีปัญหาข้อร้องเรียนทั่วไป ผู้ให้บริการจะดำเนินการแก้ไขปัญหาข้อร้องเรียนดังกล่าวโดยใช้เวลาอย่างน้อย 1 วันทำการ นับแต่วันที่ผู้ให้บริการได้ยืนยันการรับทราบปัญหาข้อร้องเรียนของผู้รับบริการแล้ว

    (ข) กรณีที่ปัญหาข้อร้องเรียนมีความเกี่ยวข้องกับบุคคลที่สาม ไม่ว่าจะเป็นบริษัทคู่ค้าในต่างประเทศ ธนาคารภายในประเทศ และ/หรือบุคคลอื่นใด หรือ ปัญหาข้อร้องเรียนเกี่ยวกับธุรกรรมที่มีความเกี่ยวข้องกับบุคคลที่สาม เช่น การคืนเงิน (Refund) การโอนเงินที่ผิดพลาด หรือ ปัญหาข้อร้องเรียนที่ผู้ให้บริการประเมินแล้วมีความซับซ้อนทางเทคนิค มีความเสี่ยง หรือ มีปริมาณงานที่อาจต้องใช้เวลาการดำเนินการนานกว่าที่ระบุไว้ในปัญหาข้อร้องเรียนประเภท (ก) ผู้ให้บริการจะแจ้งให้ผู้รับบริการทราบถึงปัญหาดังกล่าวและจะดำเนินการแก้ไขปัญหาข้อร้องเรียนดังกล่าวโดยใช้เวลาอย่างน้อย 7 วันทำการนับแต่วันที่ผู้ให้บริการได้ยืนยันการรับทราบปัญหาข้อร้องเรียนของผู้รับบริการแล้ว

  4. ผู้ให้บริการขอสงวนสิทธิ์ในการบริหารจัดการข้อมูลต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นจากการติดต่อ สนทนาระหว่างเจ้าหน้าที่ของผู้ให้บริการกับผู้รับบริการเพื่อนำไปปรับปรุง พัฒนาประสิทธิภาพในการให้บริการโดยถือว่าผู้รับบริการได้ให้ความยินยอมสำหรับเรื่องดังกล่าวแล้วนับแต่วันที่ตกลงตามข้อตกลงฯ นี้แล้ว

3.10 หากธุรกรรมของผู้รับบริการเป็นที่ต้องสงสัยว่าจะฝ่าฝืนกฎหมาย ระเบียบ ความสงบเรียบร้อย หรือศีลธรรมอันดีใด ๆ หรือเป็นการละเมิดสิทธิประโยชน์ของบุคคลภายนอก เป็นการฝ่าฝืนข้อกำหนดภายใต้กฎหมาย หรือระเบียบที่เกี่ยวข้อง หรือเป็นการฝ่าฝืนคำสั่งของหน่วยงานที่มีอำนาจ เจ้าหน้าที่รัฐ หรือ ศาล ผู้ให้บริการอาจ (1) ปิด ระงับ หรือจำกัดการเข้าถึงบัญชี
Intersend Services ของผู้รับบริการ หรือการเข้าถึงบริการ (2) ปฏิเสธที่จะให้บริการกับผู้รับบริการ (3) ยกเลิกข้อตกลงฯ (4) กระทำการอื่นใดที่จำเป็นหรือเหมาะสมตามที่ผู้ให้บริการเห็นสมควร ผู้รับบริการตกลงที่ชดใช้ค่าเสียหายและ/หรือชำระค่าธรรมเนียมการคืนเงินตามข้อ 3.1 (ถ้ามี) ต่อผู้ให้บริการในความสูญเสียหรือความเสียหายที่อาจเกิดจากหรือเกี่ยวข้องกับการที่ผู้รับบริการฝ่าฝืนกฎระเบียบตามที่กำหนดในข้อตกลงฯ นี้ ทั้งนี้ผู้ให้บริการไม่ต้องรับผิดในการชดใช้ค่าเสียหายที่เกิดจากการปิด ระงับ ยกเลิก หรือ ปฏิเสธการให้บริการดังกล่าวที่กล่าวมาข้างต้นให้แก่ผู้รับบริการ

3.11 หากผู้ให้บริการ ใช้ดุลยพินิจแต่เพียงผู้เดียวและเห็นว่าการใช้บริการของผู้รับบริการ และ/หรือ การใช้ Intersend Services หรือธุรกรรมของผู้รับบริการ เป็นการกระทำที่เป็นกิจกรรมที่ห้ามปฏิบัติ ตามที่ระบุในข้อ 4 ผู้ให้บริการจะระงับการให้บริการแก่ผู้รับบริการรายดังกล่าวทั้งหมดหรือส่วนใดส่วนหนึ่ง ระงับหน้าที่ทั้งหมดหรือส่วนใดส่วนหนึ่งตามข้อตกลงฯ นี้ ยกเลิก หรือเพิกถอนรายการที่กระทำโดยผู้รับบริการรายดังกล่าว หรือกระทำการอื่นใดที่ผู้ให้บริการเห็นสมควร (รวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียง ยกเลิกข้อตกลงฯ หรือกำหนดข้อจำกัดจำนวนเงินที่ผู้รับบริการจะโอนได้ผ่านบริการ)

ข้อ 4. กิจกรรมที่ห้ามปฏิบัติ

4.1 ในการใช้บริการบัญชีผู้ใช้งาน Intersend Services ของผู้รับบริการ ผู้รับบริการตกลงที่ไม่กระทำการดังต่อไปนี้ (“กิจกรรมที่ห้ามปฏิบัติ”)

  1. ฝ่าฝืนข้อตกลงฯ หรือนโยบายใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับบริการ

  2. ฝ่าฝืนกฎหมายหรือกฎเกณฑ์ ขอบเขตอำนาจศาล (รวมถึง กฎหมายหรือกฎเกณฑ์เกี่ยวกับการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินและการต่อต้านการสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้าย) คำสั่งหรือมาตรการทางปกครอง คำพิพากษาของศาล หรือคำตัดสินของเจ้าหน้าที่รัฐ

  3. เป็นภัยต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน

  4. ละเมิดสิทธิของผู้ให้บริการหรือบุคคลภายนอก

  5. ลงทะเบียนบัญชี Intersend Services โดยใช้ชื่อบุคคลอื่นหรือใช้บัญชีบุคคลอื่นในการดำเนินธุรกรรมต่าง ๆ บน Intersend Services หรือลงทะเบียนใช้บริการโดยใช้ข้อมูลที่เป็นเท็จ ไม่ถูกต้อง หรืออาจทำให้หลงผิด ได้รับและใช้บัญชี Intersend
    Services หลายบัญชี ให้ข้อมูลในการเข้าบัญชี Intersend Services ของผู้รับบริการรายอื่นแก่บุคคลใด ๆ โดยที่ไม่ได้รับอนุญาต หรือใช้บัญชีผู้ใช้งาน Intersend Services ของผู้รับบริการรายอื่นในการเข้าใช้บริการ

  6. เข้าทำสัญญากับผู้ให้บริการ โดยที่ไม่มีความสามารถทางกฎหมายในการกระทำดังกล่าวภายใต้กฎหมายที่เกี่ยวข้อง

  7. ใช้บริการเพื่อทำรายการธุรกรรมที่อยู่นอกขอบเขตของการบริการ

  8. ก่อให้เกิดความเสียหายแก่ชื่อเสียงและความน่าเชื่อถือของผู้ให้บริการ หรือบุคคลภายนอก หรือขัดขวางการดำเนินการทางธุรกิจของผู้ให้บริการ หรือบุคคลภายนอก

  9. แทรกแซงเซิร์ฟเวอร์คอมพิวเตอร์ (Computer Server) ของบริการหรือระบบเครือข่าย (Network System)

  10. ใช้วิธีการทางเทคนิคเพื่อเข้าจัดการบริการในลักษณะที่ไม่เหมาะสม

  11. ลอกเลียน ปรับเปลี่ยน หรือส่งผ่านซอฟต์แวร์ โปรแกรม ฐานข้อมูล และช่องทางการเชื่อมต่อ (Application Programming Interface “API”) ของผู้ให้บริการ ที่ใช้ในการให้บริการสู่สาธารณะ (เว้นแต่การส่งผ่านสู่สาธารณะดังกล่าวจำเป็นต้องกระทำเพื่อใช้บริการ) รวมถึงการทำวิศวกรรมย้อนกลับ แยกชิ้นส่วน หรือวิธีการอื่นใดเพื่อวิเคราะห์ซอฟต์แวร์ โปรแกรม ฐานข้อมูล และช่องทางการเชื่อมต่อ API

  12. ปฏิเสธที่จะให้ความร่วมมือในการตรวจสอบ หรือให้คำยืนยันตัวตน หรือเอกสารเพื่อสนับสนุนข้อมูลใด ๆ ที่ได้ให้ไว้กับผู้ให้บริการ

  13. ดำเนินธุรกิจ หรือใช้บริการในลักษณะที่ส่งผลหรืออาจจะส่งผลให้เกิดข้อร้องเรียน ข้อพิพาท ข้อเรียกร้อง ค่าธรรมเนียม ค่าปรับ บทลงโทษ และความรับผิดอื่น ๆ แก่ผู้ให้บริการ ผู้รับบริการอื่น หรือตัวผู้รับบริการเอง

  14. ขัดขวางการทำงานอันเป็นปกติของการให้บริการ หรือ

  15. มีพฤติกรรมอื่นใดที่ผู้ให้บริการเห็นว่าไม่เหมาะสม

4.2 หากผู้รับบริการฝ่าฝืนข้อตกลงฯ รวมถึงข้อ 4.1 ที่กล่าวข้างต้น หรือการให้บริการอื่นใดที่เกี่ยวข้อง ผู้ให้บริการ อาจระงับการให้บริการทั้งหมด หรือส่วนใดส่วนหนึ่งแก่ผู้รับบริการดังกล่าว หรือระงับการปฏิบัติหน้าที่ทั้งหมดหรือส่วนใดส่วนหนึ่งตามข้อตกลงฯ นี้ และอาจยกเลิกข้อตกลงฯ หาก
การฝ่าฝืนดังกล่าวเป็นเหตุให้ผู้ให้บริการ ได้รับความสูญเสียหรือความเสียหาย ผู้รับบริการต้องชดใช้ค่าเสียหายดังกล่าวทั้งหมดให้แก่ผู้ให้บริการ

ข้อ 5. การจัดการการโอนเงินที่ผิดพลาด

5.1 หากการโอนเงินที่ผิดพลาดเป็นเหตุมาจากผู้ให้บริการ ผู้ให้บริการจะแก้ไขปัญหา เยียวยาให้การโอนเงินดังกล่าวสำเร็จและถูกต้องตามความประสงค์ของผู้รับบริการโดยเร็วที่สุด

5.2 หากการชำระเงินที่ผิดพลาดดังกล่าวเป็นเหตุมาจากผู้รับบริการ เช่น แจ้งข้อมูลชื่อ-สกุล เลขที่บัญชี ธนาคารหรือรายละเอียดอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับผู้รับบริการหรือผู้รับเงินปลายทางไม่ถูกต้อง เป็นเหตุให้การโอนเงินตามคำสั่งผิดพลาดไม่ว่าด้วยประการใดก็ตาม ผู้รับบริการจะไม่เรียกร้องต่อผู้ให้บริการในเรื่องดังกล่าวทั้งสิ้นและเป็นความรับผิดชอบของผู้รับบริการแต่เพียงผู้เดียว

ข้อ 6. สิทธิในการยกเลิกคำสั่งการโอนเงินระหว่างประเทศ

6.1 ผู้รับบริการมีสิทธิขอยกเลิกคำสั่งโอนเงินผ่าน Intersend Services และต้องแจ้งเหตุผลการยกเลิกมายังช่องทางที่ผู้ให้บริการเป็นผู้กำหนด เมื่อคำสั่งการโอนเงินถูกยกเลิกสำเร็จแล้ว ผู้ให้บริการจะคืนเงินต้นของการโอนให้กับผู้รับบริการและจะเรียกเก็บค่าธรรมเนียมการคืนเงินตามข้อ 3.1 ทั้งนี้ สิทธิในการยกเลิกนี้ไม่สามารถใช้ได้หากผู้รับเงินได้รับเงินตามคำสั่งหรือปรากฏว่าสถานะของผู้รับเงินขึ้นว่าได้รับเงินแล้วในระบบก่อนมีคำสั่งยกเลิกจากผู้รับบริการ

6.2 วิธีการคืนเงินต้น การเรียกเก็บค่าธรรมเนียมการคืนเงินกรณีการยกเลิกคำสั่งการโอนเงินระหว่างประเทศให้เป็นไปตามดุลยพินิจหรือนโยบายของผู้ให้บริการ

ข้อ 7. ความมั่นคงปลอดภัยของสารสนเทศ

7.1 ผู้ให้บริการ จะดำเนินการมาตรการที่เหมาะสมเพื่อรับรองความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลในระบบสารสนเทศของบริการ อย่างไรก็ตาม ผู้รับบริการจะต้องรับรองความมั่นคงปลอดภัยของระบบสารสนเทศของผู้รับบริการเอง และป้องกันมิให้บุคคลภายนอกรุกรานทางข้อมูล (Hacking) เอาไป ปรับเปลี่ยน หรือก่อให้เกิดความเสียหายโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายซึ่งข้อมูลบันทึกการดำเนินธุรกิจ หรือข้อมูลส่วนบุคคล

ข้อ 8. การจัดการบัญชีและรหัสผ่านที่ถูกคุกคาม

8.1 ทันทีที่ผู้รับบริการพบหรือสงสัยว่าบัญชี Intersend Services และรหัสผ่านถูกคุกคาม หรือมีบุคคลภายนอกใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต ผู้รับบริการจะต้องแจ้งผู้ให้บริการโดยผ่านช่องทางที่ผู้ให้บริการกำหนดและดำเนินการระงับบัญชี Intersend Services ดังกล่าวเพื่อให้ผู้ให้บริการ
ดำเนินการต่อเหตุการณ์ดังกล่าวได้อย่างเหมาะสมและทันเวลา อย่างไรก็ตาม มาตรการที่ผู้ให้บริการ ได้ดำเนินการไม่ถือเป็นการชดใช้ค่าเสียหายของผู้ให้บริการต่อผู้รับบริการ ไม่ว่าโดยชัดแจ้งหรือโดยนัยและไม่ถือเป็นความรับผิดใด ๆ ของผู้ให้บริการต่อผู้รับบริการเมื่อได้รับแจ้งจากผู้รับบริการ ผู้ให้บริการขอสงวนสิทธิในการใช้ดุลยพินิจแต่เพียงผู้เดียวในการระงับคำสั่งให้โอนเงินจากบัญชี Intersend Services ของผู้รับบริการ

ข้อ 9. การไม่รับประกันและการจำกัดความรับผิด

9.1 ผู้รับบริการตกลงที่ปกป้องและชดใช้ค่าเสียหายให้แก่ผู้ให้บริการ บริษัทแม่ บริษัทย่อย บริษัทในเครือ พนักงาน กรรมการ ตัวแทน บริษัทร่วมค้า ลูกจ้างและผู้จัดหาสินค้าของผู้ให้บริการ (“ผู้ที่จะได้รับชดใช้ค่าเสียหาย”) จากการเรียกร้องใด ๆ ข้อเรียกร้อง ค่าเสียหาย ค่าใช้จ่ายหรือความรับผิด (โดยรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียง ค่าทนายความ) ซึ่งผู้ที่จะได้รับชดใช้ค่าเสียหายอาจจะได้รับความเสียหายหรือได้รับความเสียหายจากการที่ผู้รับบริการ หรือตัวแทนของผู้รับบริการกระทำผิดข้อตกลงฯ และ/หรือ นโยบายของผู้ให้บริการ

9.2 ผู้ให้บริการให้บริการ “ตามสภาพที่เป็นอยู่” (AS IS) และ “ตามที่มีอยู่” (AS AVAILABLE) ผู้ให้บริการ ผู้ให้บริการขอสงวนสิทธิในการเพิ่มเติม ลบ หรือแก้ไขระบบ หรือการบริการที่เกี่ยวข้องทั้งหมดหรือส่วนใดส่วนหนึ่งตามดุลยพินิจของผู้ให้บริการ

9.3 ระบบของบริการจะทำการสำรองข้อมูลเป็นระยะ ๆ ผู้ให้บริการจะไม่รับผิดต่อความเสียหายต่อการลบข้อมูล หรือการสำรองข้อมูลที่ผิดพลาดหรือล้มเหลว

9.4 ผู้รับบริการจะรับผิดชอบแต่เพียงผู้เดียวสำหรับการทำรายการธุรกรรมระหว่างผู้รับบริการกับผู้รับเงินปลายทางที่นอกเหนือจากรายละเอียดคำสั่งการโอนเงิน ผู้ให้บริการจะไม่รับผิดชอบหรือรับผิดต่อรายการธุรกรรมใด ๆ ระหว่างผู้รับบริการและผู้รับเงินปลายทางที่นอกเหนือจากรายละเอียดคำสั่งการโอนเงิน

ข้อ 10. การระงับหรือการหยุดชะงักของบริการ

10.1 ในสถานการณ์ดังต่อไปนี้ ผู้ให้บริการอาจจะระงับหรือหยุดชะงักบริการไม่ว่าทั้งหมด หรือแต่บางส่วน ผู้รับบริการจะต้องไม่เรียกร้องให้ผู้ให้บริการชดใช้ค่าเสียหายใด ๆ อันเกิดขึ้นจากการกระทำดังกล่าว

  1. การระงับหรือการหยุดชะงักเพื่อเปลี่ยนตำแหน่ง แทนที่ บำรุงรักษา ทำให้เป็นปัจจุบัน หรือซ่อมแซมอุปกรณ์ซอฟต์แวร์ หรือฮาร์ดแวร์ที่ใช้ในบริการ

  2. โดยดุลยพินิจแต่เพียงผู้เดียวของผู้ให้บริการ เห็นว่าผู้รับบริการได้ใช้บริการโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย ข้อตกลงฯ ฉบับนี้ หรือข้อกำหนดอื่น ๆ

  3. บริการถูกระงับหรือหยุดชะงักหรือไม่สามารถดำเนินการได้ตามปกติ เนื่องมาจากเหตุสุดวิสัย เพื่อหลีกเลี่ยงข้อสงสัย เหตุสุดวิสัยหมายถึงเหตุใด ๆ ที่นอกเหนือการควบคุมของคู่สัญญาแต่ละฝ่าย รวมถึงแต่ไม่จำกัดเฉพาะ เหตุสุดวิสัย (acts of God) การกระทำของฝ่ายพลเรือนหรือการกระทำทางทหาร อัคคีภัย การนัดหยุดงาน การปิดงาน หรือข้อพิพาทแรงงาน โรคระบาด ข้อจำกัดของรัฐบาล สงคราม การกระทำของก่อการร้าย จลาจล แผ่นดินไหว พายุ ไต้ฝุ่น อุทกภัย และเหตุขัดข้องของข้อมูลคอมพิวเตอร์ ข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ และระบบการสื่อสาร

  4. บริการถูกระงับหรือหยุดชะงักหรือไม่สามารถดำเนินการได้ตามปกติ เนื่องมาจากการกระทำของบุคคลภายนอก หรือเหตุอื่นใดซึ่งไม่ใช่ความผิดของผู้ให้บริการ

  5. ภายหลังการตรวจสอบ ผู้ให้บริการพบว่าผู้รับบริการให้ข้อมูลยืนยันตัวตนอันเป็นเท็จ

ข้อ 11. สิทธิในทรัพย์สินทางปัญญา

11.1 ผู้รับบริการตกลงและรับทราบว่า ไม่มีข้อใดในข้อตกลงฯ นี้เป็นการให้สิทธิ กรรมสิทธิ์ หรือสิทธิประโยชน์ใด ๆ ที่เกี่ยวข้องหรือเป็นส่วนหนึ่งกับบริการ สิทธิดังกล่าวทั้งหมดเป็นของผู้ให้บริการ และผู้อนุญาตให้ใช้สิทธิของผู้ให้บริการ

11.2 ผู้ให้บริการเป็นเจ้าของทรัพย์สินทางปัญญาบน ตรา สัญลักษณ์ รูปภาพ เครื่องหมายการค้า เครื่องหมายบริการ ที่ให้บริการบน Intersend Services ห้ามผู้ใดทำซ้ำ ทำการดัดแปลง ถ่ายโอน ลอกเลียนแบบ เผยแพร่หรือใช้สิ่งที่กล่าวมาข้างต้นเพื่อวัตถุประสงค์ทางการค้า โดยมิได้รับความยินยอมล่วงหน้าเป็นลายลักษณ์อักษรจากผู้ให้บริการ เว้นแต่กรณีที่ผู้ให้บริการได้กำหนดไว้เป็นอย่างอื่น

ข้อ 12. ข้อพิพาทกับผู้ให้บริการ

12.1 เว้นแต่คู่สัญญาทั้งสองฝ่ายได้ตกลงกันไว้เป็นอย่างอื่น ผู้รับบริการตกลงว่าข้อเรียกร้องหรือข้อพิพาทที่ผู้รับบริการมีต่อผู้ให้บริการ จะต้องถูกตัดสินโดยศาลในประเทศไทย ผู้รับบริการได้ตกลง โดยไม่อาจเพิกถอนได้ ว่าจะนำข้อพิพาทดังกล่าวขึ้นสู่เขตอำนาจศาลในประเทศไทยเท่านั้นเพื่อการดำเนินคดีความตามข้อเรียกร้องและข้อพิพาทดังกล่าว ข้อตกลงฯ อยู่ภายใต้การบังคับของกฎหมายแห่งราชอาณาจักรไทยทั้งสิ้น

12.2 หากผู้รับบริการมีข้อพิพาทกับผู้รับบริการรายอื่น ผู้รับบริการตกลงที่จะให้ผู้ให้บริการ บริษัทแม่ บริษัทย่อย บริษัทในเครือ หลุดพ้นจากคดีความ ข้อเรียกร้องและค่าเสียหาย (ค่าเสียหายที่เกิดขึ้นจริงและค่าเสียหายที่เป็นผลสืบเนื่องมาจากการผิดสัญญา) ทุกประเภทและทุกลักษณะอันเกิดขึ้น และเกี่ยวข้องกับข้อพิพาทดังกล่าว

ข้อ 13. เบ็ดเตล็ดและข้อกำหนดทั่วไป

13.1 ข้อตกลงทั้งหมด
ผู้รับบริการรับทราบและตกลงว่า (ก) ขั้นตอนการจัดการที่เกี่ยวข้อง (ข) รายละเอียดของบริการ และ (ค) แนวทางการใช้บริการ ที่แจ้งให้ทราบบน Intersend Services และ/หรือช่องทางสื่อ Social Media อื่น ๆ ของผู้ให้บริการ เช่น Facebook Line Twitter เป็นต้น จะใช้บังคับกับการเข้าถึง หรือเข้าใช้บริการของผู้รับบริการ ซึ่งมิได้กำหนดไว้เป็นอย่างอื่นในข้อตกลงฯ ฉบับนี้ เพื่อความชัดเจน ให้ถือว่านโยบายเป็นส่วนหนึ่งของข้อตกลงฯ นี้

13.2 การโอนสิทธิ
ผู้ให้บริการอาจโอนสิทธิโอน แปลงหนี้ หรือกระทำการการอื่นใดซึ่งข้อตกลง สิทธิและหน้าที่ทั้งหมดของผู้ให้บริการภายใต้ข้อตกลงฯ นี้ และผู้ให้บริการอาจโอนข้อตกลง สิทธิและหน้าที่ทั้งหมดของผู้ให้บริการ ดังกล่าว เพื่อให้ตกเป็นประโยชน์แก่ผู้สืบสิทธิและผู้รับโอนสิทธิของผู้ให้บริการ ผู้รับบริการจะกระทำการทุกอย่างที่จำเป็นเพื่ออำนวยความสะดวกในการโอนสิทธิหรือการตกลงดังกล่าว ข้อตกลง สิทธิและหน้าที่ทั้งหมดเป็นสิทธิเฉพาะตัวของผู้รับบริการ และผู้รับบริการต้องไม่มอบอำนาจ โอนสิทธิ หรืออนุญาตให้ใช้สิทธิช่วง หรือทำสัญญาช่วงแก่บุคคลภายนอกซึ่งส่วนใดส่วนหนึ่งของสิทธิและหน้าที่ โดยไม่ได้รับความยินยอมเป็นลายลักษณ์อักษรล่วงหน้าจากผู้ให้บริการ

13.3 ข้อความอิเล็กทรอนิกส์
ผู้รับบริการตกลงว่าข้อความอิเล็กทรอนิกส์ที่ส่งผ่านบริการและใช้โดยผู้ให้บริการ มีผลเช่นเดียวกับเอกสารที่เป็นลายลักษณ์อักษร และในกรณีที่มีกระบวนการไต่สวน อนุญาโตตุลาการ การไกล่เกลี่ยหรือการระงับข้อพิพาททางกฎหมายใด ๆ ระหว่างคู่สัญญาทั้งสองฝ่ายเกี่ยวกับการใช้ข้อความอิเล็กทรอนิกส์นั้น ผู้รับบริการจะต้องไม่ยกขึ้นอ้างว่าข้อความอิเล็กทรอนิกส์นั้นไม่ถือเป็นเอกสารที่เป็นลายลักษณ์อักษรหรือเป็นเอกสารที่มีการลงลายมือชื่อ และไม่มีผลหรือไม่มีอยู่

13.4 การแยกต่างหากของข้อตกลง
หากข้อกำหนดใด ๆ หรือส่วนใดส่วนหนึ่งของข้อตกลงฯ ฉบับนี้ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ตกเป็นโมฆะ โมฆียะ หรือไม่สามารถบังคับใช้ได้ตามกฎหมายใด ๆ ให้ถือว่าความชอบด้วยกฎหมาย ความสมบูรณ์หรือการใช้บังคับได้ของข้อกำหนดอื่น ๆ ภายใต้ข้อตกลงฯ นี้จะไม่ถูกกระทบ และจะยังมีผลใช้บังคับตามกฎหมาย ผู้รับบริการตกลงให้ผู้ให้บริการ แก้ไขส่วนของข้อตกลงฯ ที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ตกเป็นโมฆะ โมฆียะ หรือไม่สามารถบังคับใช้ได้ดังกล่าวได้ ทั้งนี้การแก้ไขดังกล่าวจะต้องเป็นไปตามเจตนารมณ์ที่กำหนดไว้ในข้อตกลงฯ ตามขอบเขตที่กฎหมายอนุญาต

13.5 สิทธิของบุคคลภายนอก
บุคคลที่ไม่ใช่คู่สัญญาของข้อตกลงฯ นี้ไม่มีสิทธิในการบังคับใช้ข้อกำหนดใด ๆ ตามข้อตกลงฯ ฉบับนี้

13.6 การไม่สละสิทธิ
การละเว้นหรือล่าช้าของผู้ให้บริการ ในการใช้สิทธิส่วนใดส่วนหนึ่งภายใต้ข้อตกลงฯ นี้ ไม่ถือว่าเป็นการสละสิทธิดังกล่าวภายใต้ข้อตกลงฯ นี้

13.7 การบอกกล่าว
นอกเหนือจากที่ระบุไว้ในข้อตกลงฯ การบอกกล่าวใด ๆ ของผู้ให้บริการต่อผู้รับบริการจะต้องเป็นลายลักษณ์อักษรและผู้ให้บริการอาจจะส่งให้ผู้รับบริการโดยชอบโดย (1) ประกาศอย่างชัดแจ้งบน Intersend Services ของผู้ให้บริการ หรือ (2) ประกาศหรือแจ้งบนช่องทางสื่อ Social Media อื่น ๆ ของผู้ให้บริการ เช่น Facebook Line Twitter เป็นต้น (3) วิธีการอื่นใดที่ผู้ให้บริการกำหนดขึ้นเป็นอย่างอื่น และการบอกกล่าวนั้นจะถือว่าได้รับแล้วและมีผลเพื่อเป็นไปตามวัตถุประสงค์ที่ได้ระบุในข้อตกลงฯ เมื่อ (ก) ในกรณีที่ประกาศบน Intersend Services ของผู้ให้บริการภายใน 24 (ยี่สิบสี่) ชั่วโมง หลังจากที่ได้ประกาศบน Intersend Services ของผู้ให้บริการ (ข) ในกรณีที่ส่งผ่านบัญชีผู้ใช้ที่เป็นทางการ ณ เวลาที่ผู้ให้บริการได้ส่งข้อความดังกล่าว (ค) ในกรณีที่ส่งจดหมาย เมื่อได้ส่งด้วยบุคคลไปที่อยู่ที่เกี่ยวข้อง หรือ 2 (สอง) วัน หลังจากนำส่งไปรษณีย์ (ง) ในกรณีส่งโทรสาร จะถือว่าการบอกกล่าวได้รับแล้ว เมื่อการบอกกล่าวถูกส่งถึงผู้รับในสภาพที่สมบูรณ์และอ่านได้ และ (จ) ในกรณีอื่น ๆ ณ เวลาที่ผู้ให้บริการได้ประกาศ หรือส่งการบอกกล่าว

13.8 หากผู้รับบริการไม่ได้ให้ที่อยู่ไว้กับผู้ให้บริการ ให้ถือว่าการบอกกล่าวเช่นว่าส่งถึงผู้รับบริการโดยชอบ เมื่อได้ประกาศลงบน Intersend Services อย่างชัดแจ้ง และผู้รับบริการควรตรวจสอบการประกาศบน Intersend Services เป็นประจำ